ขนาดการบรรจุ มักจะเรียกขานกันเป็นก้อน หรือบางครั้งก็เรียกเป็นรีม แต่ในหนึ่งก้อนหรือหนึ่งรีมนั้น จำนวนแผ่นจะไม่เท่ากัน โดยขนาดบรรจุมาตรฐานต่อรีมจะประมาณดังนี้:
ไซส์มาตรฐาน 27 x 31
N0.8 หนา 420 g. มีจำนวน 110 แผ่น / รีม
N0.10 หนา 520 g. มีจำนวน 90 แผ่น / รีม
N0.12 หนา 620 g. มีจำนวน 75 แผ่น / รีม
N0.14 หนา 720 g. มีจำนวน 65 แผ่น / รีม
N0.16 หนา 840 g. มีจำนวน 56 แผ่น / รีม
N0.20 หนา 1040 g. มีจำนวน 45 แผ่น / รีม
N0.24 หนา 1260 g. มีจำนวน 37 แผ่น / รีม
N0.28 หนา 1460 g. มีจำนวน 32 แผ่น / รีม
N0.30 หนา 1560 g. มีจำนวน 30 แผ่น / รีม
N0.32 หนา 1680 g. มีจำนวน 28 แผ่น / รีม
N0.36 หนา 1880 g. มีจำนวน 25 แผ่น / รีม
ไซส์มาตรฐาน 31 x 43
N0.8 หนา 420 g. มีจำนวน 69 แผ่น / รีม
N0.10 หนา 520 g. มีจำนวน 56 แผ่น / รีม
N0.12 หนา 620 g. มีจำนวน 47 แผ่น / รีม
N0.14 หนา 720 g. มีจำนวน 40 แผ่น / รีม
N0.16 หนา 840 g. มีจำนวน 35 แผ่น / รีม
N0.20 หนา 1040 g. มีจำนวน 28 แผ่น / รีม
N0.24 หนา 1260 g. มีจำนวน 23 แผ่น / รีม
N0.28 หนา 1460 g. มีจำนวน 20 แผ่น / รีม
N0.30 หนา 1560 g. มีจำนวน 19 แผ่น / รีม
N0.32 หนา 1680 g. มีจำนวน 17 แผ่น / รีม
N0.36 หนา 1880 g. มีจำนวน 15 แผ่น / รีม
การใช้งานตามความหนาของกระดาษจั่วปัง
เรามักพบเห็นการใช้กระดาษแข็งจั่วปัง เบอร์ 8 จนถึงเบอร์ 10 ใช้พิมพ์หรือผลิตเป็นแผ่นป้ายแขวน ป้ายราคา กระดาษแข็งจั่วปังเบอร์ 12, 16 มักจะเห็นนำมาผลิตเป็นขาตั้งแป้นปฏิทินตั้งโต๊ะ หรือติดแผ่นป้ายโฆษณา กระดาษแข็งจั่วปังเบอร์ 20, 24 มักจะเห็นนำไปทำเป็นปกหนังสือปกแข็ง หรือแผ่นปกสำหรับประกาศนียบัตร ปริญญาบัตรต่างๆ ที่เห็นหุ้มด้วยผ้าไหมหรือผ้าสังเคราะห์แบบต่าง ๆ นั่นล่ะ หรือบางทีความหนาแบบนี้ก็นำมาทำเป็นกล่องกระดาษแข็ง แล้วหุ้มด้วยกระดาษพิมพ์ลายกราฟิก หรือ กระดาษแฟนซีสวย ๆ ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็นต้น
เบอร์ที่หนาขึ้นก็มีการนำไปใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น อาจนำไปผลิตเป็นกระเป๋า (กระดาษแข็ง) เอกสาร หรือ ปกแฟ้มกันเลย นอกจากนี้ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์ นักคิด นักออกแบบอื่นๆ ก็อาจกำหนดให้กระดาษแข็งจั่วปังเป็นไส้ใน แล้วห่อหุ้มด้วยวัสดุที่เลือกสรร ประกอบกันขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์แบบต่างๆ เช่น เป็นกล่องกึ่งปกแฟ้ม หรือ กล่องบรรจุเหล้า เครื่องดื่มสุราที่มีแบรนด์ มีตราดัง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าหรู เป็นต้น
ซึ่งคุณสมบัติที่หนาแข็งแรงนี้ ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างภายในหรือไส้ในที่แข็งแรงเพียงพอที่จะปกป้องสินค้าที่มีความบอบบาง หรือชำรุดแตกหักได้ง่ายได้ดี ด้วยการออกแบบถาดรับ หรือชิ้นวางที่กระชับ แข็งแรง สามารถโอบอุ้มและป้องกันสินค้าภายในได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ตัวหุ้มผิวนอก ก็อาจใช้วัสดุที่ปรับแต่งให้สวยงาม เช่น กระดาษที่พิมพ์ไว้อย่างสวยงาม หรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีความเหนียวหยุ่น ทนทาน มาหุ้มเพื่อให้เกิดความสวยงาม ทำให้ได้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี มีความหรู และทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้ายกระดับความมีคุณค่าได้อีกด้วย.../*